โรคเส้นเลือดขอด เป็นโรคที่สามารถพบได้มากในปัจจุบัน ด้วยสภาพการทำงานและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ จึงต้องให้ความสำคัญในการทำอย่างไรที่จะห่างไกลจากโรคเส้นเลือดได้ ถือเป็นการป้องกันให้ห่างไกลจากโรคเส้นเลือดขอดได้เป็นอย่างดี
สาเหตุของการเกิดเส้นเลือดขอด
เส้นเลือดขอดเกิดจาก ผนังหลอดเลือดและลิ้นควบคุมการไหลของเลือดที่อ่อนแอ ภายในลิ้นจะมีลิ้นเล็ก ๆ คอยเปิดให้เลือดไหลผ่าน และปิดเพื่อไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ ไปสู่ส่วนล่างของร่างกาย ผนังเลือดอาจขยายตัวออกจนสูญเสียความยืดหยุ่นจนทำให้ลิ้นที่คอยเปิดปิดเกิดการอ่อนแอลง เมื่อทำงานผิดปกติ จึงทำให้เลือดรั่วออกมาและไหลย้อนกลับเข้าไปที่ส่วนล่วงของร่างกาย ส่งผลให้เลือดสะสมที่หลอดเลือดและเกิดอาการบวม พองตามมา และอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้
- เพศหญิง
เส้นเลือดขอดสามารถพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาจมีสาเหตุจากฮอร์โมนเพศหญิงที่ไปทำให้ผนังหลอดเลือดคลายตัวลง ส่งผงให้มีโอกาสเกิดอาการรั่วของลิ้นหลอดเลือดได้
- พันธุกรรม
เส้นเลือดขอดเกิด บุคคลในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอด ยิ่งมีโอกาสเกิดโรคนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดขอดได้ง่าย
- อายุมาก
อายุที่เพิ่มขึ้น หลอดเลือดก็เริ่มที่จะหลวมและหย่อนตัวลง เป็นสาเหตุให้ลิ้นหลอดเลือดทำงานได้ประสิทธิภาพที่ลดลง
- มีน้ำหนักมาก
น้ำหนักตัวจะทำให้เกิดแรงดันบนหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งเลือดกลับไปเลี้ยงหัวใจ ส่งผลให้เกิดแรงดันที่ลิ้นหลอดเลือดสูงขึ้นและเสี่ยงต่อการรั่วของเลือดยิ่งขึ้น
- อาชีพ
มีอาชีพที่ต้องยืนเป็นเวลานาน จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอด เพราะเลือดจะไหลได้ยากขึ้นเมื่อยืนเป็นเวลานาน
- หญิงตั้งครรภ์
ในระหว่างตั้งครรภ์ ปริมาณของเลือดในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก แต่จะนำไปสู่การตึงของหลอดเลือด นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในหญิงตั้งครรภ์ที่สูงขึ้นยังสามารถทำให้ผนังกล้ามเนื้อของหลอดเลือดคลายตัวจนลิ้นเปิดปิดเลือดทำงานบกพร่องได้เช่นกัน
อาการของเส้นเลือดขอดที่ขา มีอะไรบ้าง
เส้นเลือดขอดที่ขามักเริ่มปรากฏที่น่องเป็นบริเวณแรก โดยที่ผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ เมื่อสังเกตดูจะเห็นเส้นเลือดโป่งพองนูนออกและขดไปมา บางรายอาจรู้สึกเมื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน ขาและเท้าบวม หรือเป็นตะคริวในตอนกลางคืน
เส้นเลือดขอดที่ขาที่เป็นอยู่นานอาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมา ส่วนมากจะเป็นการอักเสบของตัวเส้นเลือดขอดเอง นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดขาอุดตันได้
บทความแนะนำ ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก จาก Rattinan.com
รักษาเส้นเลือดขอด
การรักษาเส้นเลือดขอด แพทย์จะวินิจฉัยขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาตามความเหมาะสมดังนี้
- การรักษาแบบประคับประคอง ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงมากนัก แนะนำให้ใช้ถุงน่องชนิดพิเศษที่มีระดับความหนาแน่น ที่แตกต่างกัน เพื่อให้การไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น
- การฉีดสารเคมีที่เส้นเลือดขอด (Sclerosing Therapy) ในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดขอดขนาดเล็ก โดยใช้เวลา 15 – 30 นาทีที่แผนกผู้ป่วยนอก ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
- การใช้เลเซอร์ความร้อนหรือคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency) โดยใช้หลักการรักษาด้วยการใส่สายขนาดเล็กใส่เข้าไปในหลอดเลือดดำแล้วอาศัยพลังงานจากเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุความถี่สูงที่ทำให้เส้นเลือดขอดฝ่อไป
- การผ่าตัด ในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ ต้องประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนนัดมาผ่าตัด งดน้ำและอาหาร 6 – 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดจะพันขาด้วย Elastic Bandage จากนั้นแนะนำให้ใส่ถุงน่องชนิดพิเศษต่อ และแพทย์จะนัดติดตามอาการ 1 – 2 สัปดาห์
การป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอด
- หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน ๆ ให้เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้า กางเกง ถุงเท้า หรือถุงน่องที่รัดมาก ๆ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก
- ไม่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกาย การเดินเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณขาดีขึ้น
- บริหารข้อเท้าขณะนั่ง โดยเหยียดปลายเท้าและกระดกปลายเท้าสลับกันตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด