การนั่ง หรือยืนเป็นเวลานาน ๆ จากการทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นหนึ่งปัจจัยทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี เกิดแรงดันภายในหลอดเลือดดำ เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดเส้นเลือดขอดที่ขาได้ เส้นเลือดขอดเกิดจากเส้นเลือดและขั้วเปิด-ปิดในเส้นเลือดไม่สมบูรณ์ เสื่อมสภาพ จึงเกิดการคั่งของเส้นเลือด
ปกติขณะที่หัวใจสูบฉีดส่งเลือดแดงเลี้ยงอวัยวะในร่างกาย จะมีเลือดที่ใช้ออกซิเจนหมดแล้วขึ้นกลับไปฟอกใหม่ ซึ่งเส้นเลือดในบางเส้นที่ไม่มีความแข็งแรงจะไม่สามารถส่งเลือดกลับไปได้ตามปกติ จึงมีการคั่งของเลือด ทำให้เส้นเลือดขอดอาจมีลักษณะเป็นเส้นสีแดง สีม่วง และสีเขียวตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย อาทิ บริเวณน่อง ขาพับ ต้นขา อาการอื่น ๆ
โรคเส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดดำ ซึ่งเป็นส่วนของลิ้น ที่ทำหน้าที่เปิดปิดส่งเลือดจากขาขึ้นไปสู่หลอดเลือดดำใหญ่ ความผิดปกตินี้เป็นตัวการที่ทำให้เลือด ไม่สามารถลำเลียงเข้าสู่หัวใจได้ทั้งหมด เกิดการย้อนกลับมา ค้างอยู่ในหลอดเลือด ทำให้มีลักษณะคดเคี้ยวจนผิดปกติ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ผนังหลอดเลือดดำขาดความยืดหยุ่น และลิ้นเล็ก ๆ ภายในหลอดเลือดเสื่อม ไม่สามารถปิดกั้นการไหลย้อนกลับของเลือดได้ ทำให้เกิดการคั่งของหลอดเลือดได้
- น้ำหนักที่มากเกินไป ทำให้เกิดแรงดันที่สูงขึ้นภายในหลอดเลือดบริเวณขา เป็นสาเหตุให้เกิดเส้นเลือดขอดที่ขาได้
- พันธุกรรม ในกรณีที่คนในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอดมาก่อน ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงในการเป็นเส้นเลือดขอด มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า
- คนที่ต้องยืนหรือเดินนาน ๆ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับอาชีพ เช่น หมอ พยาบาล พนักงานขาย แอร์โฮสเตส
- หญิงตั้งครรภ์ จะเกิดการอุดตัน การปรับของเส้นเลือดดำ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและมดลูกที่โตขึ้น
- ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย บางทีการไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย อาจทำให้กล้ามเนื้อและหลอดเลือดบริเวณที่ขา เกิดการเสื่อมประสิทธิภาพขึ้นมาได้
บทความแนะนำ Gynecomastia รักษา จาก Rattinan.com
อาการของโรคเส้นเลือดขอด แบ่งได้เป็น 6 ระดับ ดังนี้
- ระดับที่ 1 จะไม่พบเส้นเลือดที่ผิดปกติ แต่จะมีอาการหนักและชาบริเวณขา
- ระดับที่ 2 จะเห็นเส้นเลือดขอดเล็ก ๆ เป็นเหมือนใยแมงมุม และมองเห็นได้ชัดขึ้น
- ระดับที่ 3 เส้นเลือดขอด มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เป็นเส้นนูนขึ้นมาและคดเคี้ยว
- ระดับที่ 4 ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวด ขาบวม ปวดเมื่อย
- ระดับที่ 5 ผิวหนังบริเวณขาจากนิ่มๆ จะกลายเป็นแข็งกระด้าง สีของผิวก็จะเข้มขึ้นไปจนถึงดำ
- ระดับที่ 6 เกิดรอยแผลเป็นแบบเรื้อรัง จากขาเล็ก ๆ ก็จะบวมใหญ่ขึ้น
บทความแนะนำ ราคาดูดไขมัน เขาคิดกันยังไง? หาคำตอบกับ Rattinan.com กันครับ
การรักษาเส้นเลือดขอด
- การฉีดสารเข้าหลอดเลือดที่ขอดโดยเลือกใช้กับเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงปานกลางเพื่อให้เกิดแผลเป็นและปิดเส้นเลือดเหล่านี้ เส้นเลือดแต่ละเส้นอาจได้รับการฉีดสารชนิดนี้มากกว่า 1 ครั้ง
- การฉีดสารผสมโฟมเข้าหลอดเลือดที่ขอดใช้รักษาเส้นเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่ เป็นวิธีการใหม่ที่อาจช่วยปิดและผนึกเส้นเลือดที่รั่วได้เช่นเดียวกับการฉีดน้ำยาแบบธรรมดา
- การรักษาด้วยเลเซอร์ในปัจจุบันเป็นอีกเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกนำมาใช้ ด้วยการยิงแสงที่มีความจ้าสูงไปยังหลอดเลือดให้หลอดเลือดที่ขอดหายไปอย่างช้า ๆ
- การใช้สายสวนหลอดเลือดด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุหรือเลเซอร์มักใช้ในการรักษาหลอดเลือดที่มีขนาดใหญ่ โดยแพทย์จะสอดท่อบาง ๆ เข้าไปในหลอดเลือดที่บวมและทำให้ปลายของท่อนี้ร้อนขึ้น ความร้อนนี้จะไปทำลายหลอดเลือดโดยการปิดผนึกและทำให้หลอดเลือดยุบตัวลง
- การผูกและดึงหลอดเลือดแพทย์จะผูกหลอดเลือดก่อนที่หลอดเลือดดังกล่าวจะเข้าไปรวมกับหลอดเลือดที่ลึกลงไป จากนั้นนำเอาหลอดเลือดที่ผูกออกมาโดยการผ่าตัด
- การผ่าตัดด้วยการเจาะรูเล็กใช้สำหรับเส้นเลือดขอดขนาดเล็ก เป็นการเจาะรูขนาดเล็กผ่านผิวหนังเพื่อนำเอาเส้นเลือดขอดออก
- การผ่าตัดส่องกล้องการรักษาด้วยวิธีนี้อาจใช้เฉพาะในกรณีที่มีอาการรุนแรงของเส้นเลือดขอด มีการอักเสบที่ขา
การป้องกันเส้นเลือดขอด
การเกิดเส้นเลือดขอดไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอดด้วยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดการตึงของกล้ามเนื้อที่มีปฏิบัติดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและใช้เกลือปรุงอาหารน้อย
- ท่านจะต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักขาด้วยการยกขาขึ้นสูง
- หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงหรือถุงเท้ารัด ๆ และคอยเปลี่ยนท่าทางการนั่งและยืนอยู่เสมอ
บทสรุป
โรคเส้นเลือดขอดที่ขา สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากท่านมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอด ซึ่งพฤติกรรมที่ว่าได้แก่ การยืน การเดิน การนั่ง เป็นเวลานาน ๆ เมื่อท่านมีอาการเส้นเลือดขอดท่านควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยและวางแผนในการรักษาขั้นต่อไป