โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา เป็นเชื้อโควิดอีกประเภทหนึ่ง ที่ยังไม่ระบาดในไทย แต่เราจะต้องระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะสายพันของโรคโควิดที่ประเทศไทยเป็นอยู่ตอนนี้อาจจะมีการกลายพันเกิดขึ้นก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าโควิดสายพันธุ์นี้จะอันตรายและมีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้า และอยู่ในหมวดสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังแพร่เชื้อในอนาคต (Variant of Interest) อย่างไรก็ตามมีผลวิจัยว่าวัคซีนชนิด mRNA ยังสามารถช่วยป้องกันได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ เพราะในปัจจุบันประเทศไทยก็ได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิดกันบ้างแล้ว หากใครต้องการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคก็สามารถลงทะเบียนเพื่อฉีกวัคซีนได้ ซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด
โควิดสายพันธุ์ใหม่แลมบ์ดามาจากไหน
สำหรับโควิดสายพันใหม่นี้ได้มีการแพร่ระบาดมากกว่า 30 ประเทศแล้ว โดยพบสายพันโควิดแลมบ์ดาเป็นครั้งแรกในประเทศเปรูเมื่อปลายปี 2563 อีกทั้งประเทศเปรูยังเป็น 1 ในประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยโควิด-19 เสี่ยงเสียชีวิตสูง จากการกลายพันธุ์ และมีแนวโน้มทำให้โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาจะแพร่ระบาดได้รวดเร็ว และมีอาการที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้าที่ประเทศไทยกำลังเฝ้าระวังอยู่ รวมไปถึงความสามารถในการหลีกเลี่ยงวัคซีนของสายพันธุ์แลมบ์ดาด้วยเช่นกัน
อาการของโรคโควิดสายพันธุ์ใหม่แลมบ์ดาเป็นอย่างไร
สำหรับอาการของโรคโควิดแลมบ์ดา ผู้ป่วยที่เป็นโรคโควิดสายพันธุ์นี้จะมีอาการที่รุนแรงกว่า สายพันธุ์เดลต้า และสังเกตอาการยากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์เฝ้าระวังว่าจะสามารถแพร่เชื้อในอนาคต (Variant of Interest) หรือ VOI และมีแนวโน้มว่าต่อไปอาจจะถูกเพิ่มเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern) หรือ VOC เช่นเดียวกับสายพันธุ์เดลต้าซึ่งมีเกณฑ์ในการวัด ดังนี้
- ความรุนแรงเมื่อติดเชื้อมากกว่าสายพันธุ์ปกติ
- มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ปกติ
- สามารถเลี่ยงประสิทธิภาพวัคซีน หรือส่งผลต่อระบบสาธารณสุขให้ด้อยลงจากเดิม
วัคซีนที่สามารถป้องกันโรคโควิดสายพันแลมบ์ดามีวัคซีนไหนบ้าง
สำหรับโรคโควิดสายพันแลมบ์ดา เป็นสายพันใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการลดของวัคซีนได้ แต่ก็มีวัคซีนหนึ่งตัวที่สามารถช่วยป้องกันการแพร่เชื้อของโรคโควิดสายพันใหม่นี้ได้นั่นก็คือวัคซีนชนิด mRNA (วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา) พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากพอในการช่วยป้องกันโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา สำหรับวัคซีนชนิดอื่นยังไม่มีผลการวิจัยออกมาเผยแพร่แต่อย่างใด
สถานการณ์โควิดสายพันธุ์ใหม่แลมบ์ดาในไทย
สำหรับโรคโควิดสายพันใหม่แลมบ์ดายังไม่พบในประเทศไทย เพราะโควิดสายพันใหม่นี้พบในต่างประเทศ โอกาสของคนที่จะติดโรคนี้มาสู่คนไทยก็คือกลุ่มคนที่เข้าออกนอกประเทศหรือเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์นี้ เพื่อเป็นการป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่แลมบ์ดาจึงไม่ควรเดินทางไปต่างประเทศที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีการระบาด และถึงแม้จะยังไม่พบในไทยเราก็ยังต้องระวังและคอยดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโควิด-19 อยู่เสมอ เพราะโรคนี้เป็นโรคที่น่ากลัวและคร่าชีวิตของคนไปมากมายแล้วในปัจจุบัน ต้องมีการตรวจโควิด fit to fly
ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดามีประเทศไหนบ้าง
สำหรับประเทศที่มีคนติดโรคโควิด 19 สายพันธุ์แลมบ์ดามีทั้งหมด 29 ประเทศดังนี้
- ชิลี
- สหรัฐอเมริกา
- เปรู
- เยอรมนี
- เม็กซิโก
- อาร์เจนตินา
- เอกวาดอร์
- สเปน
- อิสราเอล
- กัมพูชา
- ฝรั่งเศส
- อิตาลี
- เซนต์คิตส์และเนวิส
- สวิตเซอร์แลนด์
- อียิปต์
- สหราชอาณาจักร
- บราซิล
- แคนาดา
- โปแลนด์
- อารูบา
- ออสเตรเลีย
- คูราเซา
- สาธารณรัฐเช็ก
- เดนมาร์ก
- เนเธอร์แลนด์
- โปรตุเกส
- ตุรกี
- อุรุกวัย
- ซิมบับเว
ถึงอย่างไรก็ตามโควิด19 สายพันแลมบ์ดายังไม่พบในไทย แต่คนไทยก็ยังต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี และจากข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจวางแผนป้องกันการติดเชื้อทั่วโลก การเลือกใช้วัคซีนที่เหมาะสมกับเชื้อกลายพันธุ์ จะช่วยให้สาธารณสุขแต่ละประเทศป้องกันการระบาดได้มากที่สุด หากใครต้องการที่จะฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ในประเทศไทยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับวัคซีนได้ตามหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ และที่สำคัญคนไทยต้องดูแลตัวเองให้มาก ๆ อยู่ในบ้านอย่าออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 นั่นเอง