รักษาเส้นเลือดขอดที่ไหนดี pantip เส้นเลือดขอด เป็นอาการที่ผนังของหลอดเลือดดำใต้ชั้นผิวหนังโป่งพอง เนื่องจากมีเลือดคั่งค้างอยู่ในหลอดเลือด มองเห็นได้จากภายนอกว่า มีการขดหรือขมวดของหลอดเลือดเป็นสีม่วงคล้ำ คลำพบว่าเป็นเส้นเลือดโป่งนูนขึ้น ในบางครั้งอาจมีอาการปวดร่วมด้วย
อาการของเส้นเลือดขอดบางคนมองว่าไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ก็ทำให้เรียวขาแลดูไม่สวยงาม รวมถึงหากปล่อยทิ้งไว้จนเป็นมากขึ้นก็อาจเกิดอาการปวดขาเวลายืนนานหรือขาเป็นตะคริว จนถึงเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ขาบวม ผิวหนังอักเสบ และมีแผลได้
อาการเส้นเลือดขอดมักสร้างความเจ็บปวดหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ซึ่งการรักษาเส้นเลือดขอดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคืนความมั่นใจ และมีความสุขกับการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง แต่ก่อนที่จะทำการรักษา เรามาดูสาเหตุของการเกิดเส้นเลือดขอดกันก่อนดีกว่าค่ะ
สาเหตุของโรคเส้นเลือดขอด
- เกิดจากพฤติกรรมของตัวเองจากการนั่ง หรือยืนนาน ๆ
- การใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งจะทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่ดี
- มักเกิดกับหญิงที่ตั้งครรภ์ หรือคนอ้วน
- เกิดจากกรรมพันธุ์
- เกิดจากความผิดปกติของลิ้นในหลอดเลือดดำ
- เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดดำ
- เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ก็อาจทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้
- การผ่าตัดบริเวณสะโพก
- เกิดจากฮอร์โมนเพศ ซึ่งเพศหญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศชาย
ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับเส้นเลือดขอด เนื่องจากเส้นเลือดขอดเป็นโรคที่หลายๆ คนละเลย เพราะคิดว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อการดำเนินชีวิต แต่ความจริงแล้ว หากเราปล่อยให้เส้นเลือดขอดอยู่กับเราไปนาน ๆ คุณอาจจะประสบกับปัญหาที่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการปวดจนถึงขั้นไม่สามารถที่จะยืน หรือเดินได้ หรือในบางรายเป็นมากจนถึงขั้นเส้นเลือดแตกได้
หากจะมองว่าการเกิดเส้นเลือดขอดไม่มีอันตราย ขอบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด เพราะเส้นเลือดขอดมีอัตรายมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากความรุนแรงของเส้นเลือดถูกแบ่งออกเป็นถึง 3 ระดับ ดังนี้
ความรุนแรงของเส้นเลือดขอด มี 3 ระดับ คือ
- เส้นเลือดขอดแบบฝอย แตกเป็นเส้นเล็ก ๆ (Spider Veins) ลักษณะเป็นแพแบบเส้นใยแมงมุม ผู้ที่เป็นบางรายแทบไม่มีอาการเจ็บ ปวด หรือเมื่อยล้าบริเวณที่เป็น เนื่องจากจะอยู่ตื้นมองเห็นคล้ายใยแมงมุม มีขนาดเล็กสีม่วง หรือแดง เป็นเส้นเลือดขอดที่มีความรุนแรงน้อยที่สุด
- เส้นเลือดขอดขนาดกลาง (Reticular veins) ลักษณะของเส้นเลือดจะโป่งพองออกมาไม่มาก แต่พอสังเกตเห็นได้
- เส้นเลือดขอดโป่งพองขนาดใหญ่ (Varicose Veins) เกิดจากผนังเส้นเลือดบาง ทำให้เส้นเลือดพองและขดเป็นหยักอาจมีสีเขียวผสมม่วง ซึ่งสังเกตเห็นค่อนข้างชัด เพราะเส้นเลือดจะโป่งนูนออกมาเป็นขดๆ ชัดเจน และมีอาการเมื่อยล้า เจ็บปวดบริเวณเส้นเลือดขอด ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นที่ต้องรักษา เพราะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาได้
ภาวะแทรกซ้อน
- หลอดเลือดที่ขอดจะทำให้เกิดการอักเสบและอุดตัน
- หากเกิดอุบัติเหตุแล้วเส้นเลือดขอดฉีกขาดจะทำให้เสียเลือดมาก
- หากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจเกิดการแตกของเส้นเลือดขอดที่อยู่ชิดผิวหนัง ทำให้มีแผลโดยตรงบนผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดออกเป็นจำนวนมาก
อาการที่บอกว่าคุณกำลังเป็นเส้นเลือดขอด ซึ่งส่วนใหญ่เส้นเลือดขอดมักไม่แสดงอาการให้เห็น ยกเว้นจากการสังเกตความผิดปกติ ได้แก่ มองเห็นเส้นเลือดคดเคี้ยวและนูนออกมา เส้นเลือดจะปรากฏสีม่วงเข้มหรือสีฟ้าบริเวณขา คุณจะมีอาการเมื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ หนักขา จะมีอาการบวม ร้อนขาส่วนล่าง รู้สึกปวดเมื่อนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน เลือดออกจากเส้นเลือดขอด ผิวหนังอักเสบหรือมีแผลพุพองบริเวณผิวหนังใกล้ข้อเท้า
เมื่อรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเป็นเส้นเลือดขอดควรรีบปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัย ดังนี้ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และแพทย์จะทำการตรวยด้วยเครื่อง ultrasound ชนิดพิเศษสำหรับหลอดเลือด (Duplex Ultrasound) ซึ่งต้องทำเพื่อประเมินหาสาเหตุแอบแฝง มิฉะนั้นจะกลับมาเป็นอีกหลังการรักษา
เมื่อแพทย์ทำการวินิจฉัยแล้วต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนของการรักษา ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะพิจารณาตามความเหมาะสม ได้แก่
วิธีรักษาเส้นเลือดขอด
- เส้นเลือดขอดแบบฝอย แพทย์จะทำการรักษาโดยฉีดสารเคมีเข้าสู่เส้นเลือดดำ (Sclerotherapy) เพื่อให้เส้นเลือดฝ่อ และตีบลง
- เส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการรักษาด้วยการฉีดโฟม (Foam Sclerotherapy) เพราะโฟมมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขอดเกิดการอักเสบ จากนั้นร่างกายจะมีกลไกจัดการทำลายเส้นเลือดขอด และทำให้เส้นเลือดขอด
ค่อย ๆ จางลงแล้วหายไป - เส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ ที่มีการรั่วของหลอดเลือด แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีคลื่นวิทยุความถี่สูง Radio Frequency Ablation (RFA) ใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที หลังการรักษาเส้นเลือดขอดจะยุบลงประมาณ 50% และอีกใน 6-8 สัปดาห์ จะยุบตัวลงอีก 90-100%
หลังทำการรักษาเส้นเลือดขอด ควรปฏิบัติ ดังนี้
- งดยกของหนัก หรือยืนนาน ๆ เป็นเวลา 3 – 7 วัน
- ควรใส่ผ้ายืด หรือซัพพอร์ทในบริเวณที่ทำการรักษา เพื่อประคองกล้ามเนื้อและเส้นเลือดบริเวณนั้น ส่วนระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นเลือด โดยเส้นเลือดเล็กฝอยให้ใส่ 1 – 3 วัน ส่วนเส้นเลือดขอดขนาดกลาง (ขนาดเท่าไส้ปากกา) ควรใส่อย่างน้อย 7 วัน ขึ้นไป
- ควรออกกำลังกายด้วยการเดินทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้ยากระจายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ควรพบแพทย์ตามนัดภายใน 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อแพทย์จะได้ติดตามผลการรักษา
บทสรุป
รักษาเส้นเลือดขอดที่ไหนดี pantip เส้นเลือดขอดที่ใครมองว่าไม่อันตราย อยากจะบอกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะคะ เนื่องจากเมื่อมีอาการมาก ๆ อาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ ดังนั้นคุณจึงต้องมองหาสถานบริการพยาบาลที่ได้มาตรฐานได้รับการรับรองจากแพทยสภา และมีแพทย์ชำนาญการคอยให้บริการ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง