สำหรับผู้ที่เกิดปัญหาจุดซ่อนเร้นมีกลิ่น ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิง ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลอยู่เป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่ากลิ่นอันไม่พึงประสงค์นั้น จะคอยไปรบกวนผู้คนรอบข้างได้ ทำให้เสียบุคลิกเป็นอย่างมาก เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตนเอง ไม่กล้าที่จะไปพบปะผู้คน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาวิธีเพื่อป้องกันและหาวิธีรักษาของการเกิดกลิ่น เพื่อให้ปัญหาได้หมดไป หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เป็นที่รังเกียจของคนรอบข้างได้ ไม่มีใครต้องการอยากเข้าใกล้เลยก็เป็นได้ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหานั้น สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งสามารถหาข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ที่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ให้ได้แก้ปัญหาให้หมดไปได้อย่างแน่นอน
การดูแลจุดซ่อนเร้นสำคัญอย่างไร
การดูแลจุดซ่อนเร้นสำหรับสาว ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้หญิงทุกคนควรหมั่นดูแลเอาใจใส่จุดซ่อนเร้น อย่างสม่ำเสมอ ตามธรรมชาติ ออกแล้วช่องคลอดของผู้หญิงนั้น จะมีกลิ่นอ่อน ๆ หรือตกขาว ที่เป็นสีใสหรือสีขาวซึ่งเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นภายในช่องคลอด สามารถปรับค่าความเป็นกรดด่าง pH ภายในช่องคลอดให้มีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ เพื่อให้ปริมาณแบคทีเรียชนิดที่ดีและไม่ดี เกิดความสมดุลกัน เป็นการป้องกันการติดเชื้อภายในช่องคลอดได้ดีเลยทีเดียว หากช่องคลอดและผิวหนังภายนอกช่องคลอด มีกลิ่นเหม็นคาวปลาร่วมกับอาการคัน แดง แสบร้อนเจ็บปวด อาจเป็นสัญญาณเตือน ของปัญหาสุขภาพทางเพศได้ สาว ๆ ควรดูแลตนเองหรือปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน ซึ่งอาการดังกล่าวอาจเกิดจากพฤติกรรม ในการใช้ชีวิตประจำวันหรือจากปัจจัยอื่น ๆ เช่นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ความชื้น เหงื่อไคล การตั้งครรภ์ การใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ที่อยู่ ในระหว่างการให้นมบุตร หรือหลังวัยหมดประจำเดือน
ทำไมจุดซ่อนเร้นถึงมีกลิ่น
จุดซ่อนเร้นมีกลิ่น มีสาเหตุได้จากปัจจัยหลาย ๆอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น การรักษาความสะอาด ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นปัจจัยล้วนก่อให้เกิดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ ซึ่งเราสามารถแบ่งสาเหตุ ต่าง ๆได้ดังนี้
- เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถพบได้บ่อยมาก เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดเกิดความไม่สมดุลกัน สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิง ที่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนได้ โดยอาการของการติดเชื้อแบคทีเรียนี้จะเกิดอาการคัน และตกขาวเกิดขึ้น
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ สามารถทำให้เกิดกลิ่นที่จุดซ่อนเร้นได้เช่นเดียวกัน และอาการก็จะเหมือนกับการติดเชื้อแบคทีเรีย คือมีตกขาว มีอาการคันและมีกลิ่น แต่อาจมีลักษณะอาการอื่นร่วมด้วยเช่น มีเลือดออกหรือบางรายมีลักษณะผิดปกติตรงอวัยวะเพศ จึงต้องควรพบแพทย์โดยด่วน
- การดูแลความสะอาดจุดซ่อนเร้น ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดในช่วงที่มีประจำเดือน ซึ่งทำให้เกิดความอับชื้น จึงทำให้เกิดกลิ่นได้ จึงต้องหมั่นทำความสะอาด และเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 2 – 4 ชั่วโมง เพื่อให้จุดซ่อนเร้นของคุณสะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี
- อาหารที่รับประทานเข้าไป อาหารถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดกลิ่นเป็นอย่างมาก หากคุณรับประทานอาหารประเภทหมักดอง อาหารรสจัด อาหารที่มีกลิ่นฉุน เช่นปลาร้า ปลาเค็ม หรือกระเทียม ส่งผลให้จุดซ่อนเร้นของคุณเกิดกลิ่นได้
- ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับผู้หญิงมากที่สุด จึงทำให้เกิดกลิ่นซ่อนเร้น เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เพราะฮอร์โมนในช่วงนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง
วิธีดูแลจุดซ่อนเร้น
- การทำความสะอาดในชีวิตประจำวัน การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะสาเหตุที่ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อรา จนทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้น เกิดขึ้นจากการทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดกลิ่นตรงบริเวณจุดซ่อนเร้นได้
- เลือกใส่เสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับจุดซ่อนเร้น เนื่องจากอากาศบ้านเราเป็นเมืองร้อน การใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปมากจนเกินไป อาจส่งผลให้การระบายเหงื่อและความชื้น ลำบากมากยิ่งขึ้น มีผลทำให้จุดซ่อนเร้นเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ จึงแนะนำให้เปลี่ยนมาใส่กางเกง ที่ไม่รัดรูปจนเกินไป เช่นกางเกงผ้าฝ้าย เป็นต้น
- ดูแลสุขภาพภายในในช่วงวันนั้นของเดือน สาว ๆที่มีประจำเดือนจึงต้องเอาใจใส่ในเรื่องของการเปลี่ยนผ้าอนามัยอยู่บ่อย ๆ เช่นช่วงเวลาเช้า กลางวัน เย็น เลือกใช้ผ้าอนามัยที่สะอาดปลอดภัยและได้มาตรฐาน ไม่ควรเก็บผ้าอนามัยไว้ในที่อับชื้น อาจจะเป็นเชื้อราได้
- สังเกตความผิดปกติของจุดซ่อนเร้น สาว ๆควรให้ความดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้น ตรงบริเวณอวัยวะเพศ ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ มีอาการคันในช่องคลอด ตกขาวมากจนผิดปกติ อวัยวะเพศมีกลิ่น ตกขาวมีสีที่ ผิดไปจากเดิมหรือไม่ หากเกิดอาการดังกล่าว ควรไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาป้องกันต่อไป